วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

" ครูอาสาพัฒนาชุมชน ครั้งที่ 5 "

ตั้งแต่ จบค่ายรุ่นที่ 4 ทางชมรมได้เดินหน้าสำรวจ
และเก็บข้อมูลของโรงเรียนที่เราจะไปออกค่ายรุ่นที่ 5
ตอนนี้ได้ข้อมูลมาบางส่วน แต่ก็ยังรอมติว่าเราจะไปที่ไหนกัน
ขอให้เพื่อนๆสมาชิกและผู้ที่สนใจบริจาค ทะยอยส่งสิ่งของ
เงินช่วยเหลือ หรือกระแสน้ำใจอื่นๆมาที่ทางชมรมได้เลยครับ
ทางชมรมกำลังเดินหน้าหาสปอนเซอร์เพิ่มเติม เพื่อช่วยเหลือ
น้องๆที่อยู่ตามที่ทุรกันดาร โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้แรงใจ
และแรงสนับสนุนจากเพื่อนๆ และหน่วยงานต่างๆเพิ่มขึ้นครับ

ส่วน แบบเสื้อครูอาสารุ่นที่ 5 ขอให้น้องๆที่มีความสามารถ
หรือมีความคิดริเริ่มด้านศิลปะ ช่วยกันออกแบบและส่งแบบมาได้
ที่ E-mail : kruarsa_rmutl@hotmail.com ครับ
และทางเราจะคัดเลือกลง Blog ให้เพื่อนๆรวมกันโหวดและ
ให้ทุกท่านได้สั่งเสื้อกันได้ เร็วกว่าปีที่แล้วครับ
เงินส่วนหนึ่งที่เหลือจากการ ขายเสื้อ หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว
เราจะนำไปสมทบทุนการออกค่ายครู อาสาครั้งที่ 5 นี้ด้วยครับ


ขอบคุณครับ

วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Kruarsa Story Part 1

"ความทรงจำดีๆของครูอาสาปีที่ 4" ........

อยากแบ่งปันให้ทุกท่านได้รู้สึกดีไปกับเราทุกๆคน ที่ได้เดินทางไปค่ายครั้งนี้
ไปมอบความสุขและความรักให้กับน้องๆ ชาวซอแขระกลา ........

....ตามกำหนดการแล้วค่ายของเราจะต้องเดินทางไปวันที่ 10-13 ธ.ค. 52 แต่ว่าระยะ
ทางที่ต้องเดินทางนั้นไกลมาก บรรดารุ่นพี่ปี 4 จึงออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อน เพื่อ
จัดเตรียมสถานที่ อาหาร และทำความรู้จักกับน้องๆที่ซอแขระกลา


....เราออกเดินทางจากมหาวิทยาลัย เวลาประมาณ 10.30 น. โดยรถยนต์ 6 ล้อ
ฟรูโซ่ ของมหาลัย ขนของไปจำนวนมาก ทั้งปูน เครื่องปั่นไฟ เครื่องครัว และอาหาร
สำหรับน้องๆที่จะไปค่าย ตลอดการเดินทางพวกเราต่างก็ตื่นเต้นที่จะได้เจอน้องๆ
รวมทั้งเส้นทางการเดินทางก็ช่างแสนทรหด และน่ากลัวเอามากๆ หลายครั้งที่เราต่าง
พากันนึกอยากกลับบ้านเพราะมองไปทางไหนก็เป็นเหว เป็นหุบเขาไปหมด แต่เราก็สู้
เดินทางกันจนถึงร.ร.ซอแขระกลา ในเวลาประมาณ 19.00 น. ^^
....ภาพแรกที่เห็น ทำให้ความเหนื่อยความกลัวทั้งหมด หายลงไปในพริบตา ชาวบ้าน
ต่างพากันมายืนรอรับเรา เด็กๆ และคุณครู พากันก่อไฟ ต้มน้ำ รอเรา พอเราไปถึงก็มี
อาหาร วางรอบนโต๊ะ มีโอวัลตินรอให้เราดื่ม ทั้งๆที่พวกน้องๆก็แทบจะไม่มีกินกันอยู่
แล้ว อาหารที่เค้าเตรียมไว้ต้อนรับพวกเราก็มีปลากระป๋อง แล้วก็ต้มยำปลากระป๋อง
ถึงจะเป็นอาหารพื้นๆ แต่รู้สึกว่ามื้อนั้นอร่อย จนน่าแปลกใจเลยทีเดียวค่ะ
....หลังจากทานอาหารเสร็จ เราก็เก็บของ และหาพื้นที่กางเต๊นท์นอนพัก อากาศข้าง
บนเขาหนาวมากเลยทีเดียวค่ะ ถ้าให้ประมาณโดยความรู้สึก ก็น่าจะประมาณ 10-15
องศา ได้ ซึ่งถือว่าเย็นกว่าแอร์บ้านเราอีก (แต่สดชื่นกว่ากันเยอะเลยค่ะ)

....เช้าวันที่ 10 เราต่างก็พากันตื่นแต่เช้า มาดูบรรยากาศอันแสนสดชื่นบนเขา แล้วก็
ได้เห็นภาพประทับใจที่น้องๆยืนเรียงแถวกันอย่างมีระเบียบเคารพธงชาติตอนเช้า
น้องๆร้องเพลงชาติได้เสียงดังมากค่ะ


ถึงจะชัดบ้างไม่ชัดบ้าง แต่น้องเค้าก็ร้องสุดเสียงเลยที่เดียว รู้สึกได้เลยว่าเค้ามั่นใจใน
ความเป็นคนไทย และภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยจริงๆ หลังจากนั้นน้องๆก็สวดมนต์
แผ่เมตตาและที่ทำให้ดิฉันต้องหันไปมองก็คือ คำปฏิญาณตนที่ไม่ค่อยได้ยินบ่อยนัก
น้องๆเค้าปฏิญาณตนกันอย่างเสียงดังฟังชัดอีกเช่นกันค่ะ ว่า " พวกเราเป็นไทย อยู่ได้
จนถึงทุกวันนี้ เพราะเรามีชาติศาสนา พระมหากษัตริย์ ...." ฟังแล้วตื้นตันใจค่ะ อยาก
ให้ทุกท่านได้เห็นและได้ยินจริงๆเลยทีเีดียว


....พอช่วงสายๆ หลังจากน้องๆเข้าแถวเสร็จ พี่ๆก็ชวนน้่องออกกำลังกายปอด โดยการ
พาน้องๆเป่าลูกโป่งเพื่อนำมาประดับประดาให้ดูสวยงาม มีสีสัน โดยเป็นฝีมือของน้องๆ
ล้วนๆเลย เป่ากันจนหน้าดำหน้าแดงเลยทีเดียว


พอเป่าลูกโป่งกันเสร็จเราก็จัดกิจกรรมเล็กๆน้อยๆให้น้อง ให้น้องระบายสี ตัวการ์ตูน
ซึ่ง
น้องหลายๆคนระบายได้สวย และมีจิตนาการมากๆเลยค่ะ มีทั้งสีช็อก สีไม้ ก็ตาม
ความ
ถนัดและความชอบของน้องๆ


ส่วนพี่ๆก็แจกขนมอย่างเดียวค่ะ น้องคนไหนระบายสวยไม่สวย เราก็แจกๆๆ ให้น้องๆ
กินกัน
จนอิ่ม รวมทั้งถือโอกาสถามชื่อน้องๆ ไปด้วยเลย แต่พี่ๆต้องใช้ความพยายาม
มากๆเลยทีเดียว เพราะน้องๆพูดภาษาไทยไม่คล่อง จะพูดได้พอฟังรู้เรื่องก็คือเด็กที่
อยู่ชั้นป.3-ป.4 ถ้า ระดับอนุบาลนี่พูดกันไม่รู้เรื่องเลยล่ะค่ะ ก็จะต้องให้คุณครูช่วยแปล
และก็ช่วยถามชื่อให้ หลังๆมาน้องๆเริ่มคุ้นเคย ก็เริ่มพูดภาษาไทยกับพวกเรา


....ส่วนรุ่นพี่ผู้ชายอีก 6-7 คน ก็เตรียมตัวต้อนรับน้องๆที่จะตาม
มาสมทบ โดยจัดหาที่
เตรียมให้น้องกางเต๊นท์ เตรียมสุขา ราวตากผ้า และทำการรื้อโรงอาหารเดิมออก เพื่อ
เตรียมเคลียร์พื้นที่ และไม่ให้เสียเวลาเพราะเวลาการทำงานเรามีน้อยมาก


....เวลาประมาณ 17.00 น. สมาชิกชมรม อีกประมาณ 70 คน ก็ได้เดินทางมาถึงค่าย
ดูจากสีหน้าน้องๆแล้วเนี่ยคงคิดไม่ต่างจากพี่ๆเลยว่า ระยะทางช่างแสนไกล และโหด
มากๆเลย แต่ด้วยสปีริตของค่ายอาสา น้องๆก็เก็บข้าวของอย่างมีระเบียบ และก็เริ่ม
ทำงานกันต่อ รื้อส่วนที่เป็นหลังคา และโครงสร้างออก อย่างขยันขันแข็ง
กว่าจะเสร็จ
งานก็ราวๆ 3 ทุ่ม แต่ละคนก็แยกกันไปพักผ่อนหลับกันเงียบเลยล่ะค่ะ ---- ^^


By: ยีนส์

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Kruarsa Story Part 2

ครูอาสา...บนดอย

....หลังจากได้พักผ่อนกันมาเด็มที่แล้ว เริ่มต้นเช้าวันใหม่กันอย่างสดชื่น ทานอาหาร
มื้อเช้าเสร็จเรียบร้อย ก็มีการประชุม แบ่งงาน ส่วนนึงจัดกิจกรรมนันทนาการให้น้อง

อีกส่วนก็สร้างโรงอาการให้น้อง


....วันแรกของการสร้างโรงอาหาร เราต้องทำการปรับพื้นที่กันยกใหญ่ เพราะพื้นดิน
บริเวณโรงอาหาร ก่อนหน้านี้เป็นดิน ไม่ได้เทพื้นไว้ เป็นหลุมเป็นบ่อ และก็สูงต่ำไม่
เท่ากัน จากนั้นก็เริ่มขุดหลุมเพื่องลงเสา


....อีกส่วนนึงก็พากันไปตัดไม้ เพื่อนำมาทำเป็นโครงในการเทพื้นปูน โครงหลังคา
โดยมีชาวบ้านนำทางไป และมีสมาชิกจาก อบต. อีกหลายท่านมาช่วยออกแรง


....หลังจากขุดหลุมกันเรียบร้อย ก็ได้เวลาลงเสา โดยเราก็มีการโห่เอาฤกษ์เอาชัยกัน
อย่างพร้อมเพรียง และแน่นอนว่าเรื่องมาตรฐานก็เป็นสิ่งสำคัญ เราได้อาจารย์คอย
ควบคุมดูแลงานอย่างใกล้ชิด วัดระดับน้ำ วัดระยะห่างอย่างละเอียดเลยทีเดียวค่ะ


....ลองไปดูทางฝ่ายนันทนาการกันบ้างดีกว่านะคะ ทางนี้ก็ไม่น้อยหน้าเลยทีเดียว มี
การจัดกิจกรรมให้น้องๆ ได้สนุกสนานกันอย่างเด็มที่ มีเกมส์แจกของรางวัล มากมาย
อาทิเช่นเกมส์เป่าลูกโป่งให้แตก ฝึกน้องๆจัดแถว และกิจกรรมท่อง ก-ฮ น้องๆคนไหน
ท่องได้หรือไม่ได้ ก็ได้ของรางวัลกันไปอย่างทั่วถึงทุกคนเลยค่ะ


....พอถึงช่วงเวลา พักเที่ยง พวกเราก็ทำอาหารเลี้ยงน้องๆ ก็เป็นอาหารพื้นๆ คือข้าวผัด
และหมูทอด แต่มองดูจากการกินของน้องๆแล้ว ดูน่าเอร็ดอร่อยมากๆ เลยค่ะ


....คุณครูเล่าให้ฟังว่า น้องๆไม่ค่อยได้ทานอาหารแปลกๆใหม่ๆ ขนมก็ไม่ค่อยได้ทาน
เพราะทางบ้านน้อง ไม่มีเงินซื้อ ขนาดผงซักฟอกซักผ้า ยังไม่มีเงินซื้อเลยค่ะ ดิฉัน
จึงไม่แปลกใจเลยที่เห็นเสื้อผ้าน้องเลอะเทอะแบบนี้ พอได้ฟังแล้วก็กระจ่างทันทีว่า
เด็กๆชาวเขาเค้าไม่ได้ไม่รักษาความสะอาด แต่เค้าไม่มีเงินจะซื้ออย่างพวกเรานั่นเอง



....กลับไปดูที่ฝ่ายก่อสร้างโรงอาหารกันบ้างดีกว่านะคะ ช่วงบ่ายเร่งมือทำกันเต็มที่
เพราะตั้งเป้ากันไว้ว่า จะขึ้นโครงหลังคาให้เสร็จ ไม่งั้นก็ไม่นอน ก็ทำกันอยู่จนดึกอีก
เช่นเคยค่ะ คืนนั้นก็ประมาณ 2 ทุ่มเศษ ขึ้นหลังคาเส็จไปส่วนนึง เทปูนเสร็จไปอีกส่วน

มองหน้าสมาชิกชาวค่ายแล้วเนี่ย รู้เลยค่ะว่าน้องๆเหนื่อยกันมากๆ บางคนหมดแรง
ได้แผลติดตัวกันไป บางคนก็ถึงไม่สบายเลยทีเดียว แต่พวกเราก็ยังยิ้ม เพราะมีเด็กๆ
คอยให้กำลังใจตลอด น้องๆอยู่กับเราจนเราทำงานเสร็จทุกวัน คอยส่งรอยยิ้มและ ทำ
ให้พวกเราหัวเราะกับท่าทางน่ารัก ของน้องๆได้ตลอดเวลาเลยทีเดียวค่ะ



....เช้าวันที่ 12 วันสุดท้ายของการทำงานของพวกเรา เหลืองานอีกมากมายรอเราอยู่
เราก็เร่งมือทำกันแต่เช้าตรู่ วันนี้ไม่มีการแยกชาย-หญิง แล้วล่ะค่ะ ผู้หญิงเราก็พามา
ขนปูน ขนทรายช่วยกันหมด เป็นภาพแห่งความสามัคคี ที่นานๆจะเได้เห็นทีเลยล่ะค่ะ


....ไม่ใช่แค่พวกเราเท่านั้นนะคะ ชาวบ้านก็มาช่วยเรากันเยอะเลย บางคนหอบลูกมา
ด้วยก็มี เห็นอย่างนี้แล้ว ครูอาสาอย่างพวกเราก็ไม่เหนื่อยเลยค่ะ ทำงานแบกปูน แบก
ทรายเท่าไหร่ก็สู้แน่นอน ไม่นานงานของเราก็สำเร็จไปได้ด้วยดี เทปูน ขึ้นหลังคาไว้
เป็นที่เรียบร้อย


....พอถึงช่วงบ่าย เราก็มีพิธีมอบของบริจาคให้กับโรงเรียน และน้องๆ ของบริจาคของ
เรา ก็มีทั้งเสื้อผ้า เสื้อกันหนาว อุปกรณ์การเรียน หมอน ผ้าห่ม อาหารแห้ง อุปกรณ์
กีฬา ยารักษาโรค และอื่นๆอีกมากมายนับร้อยรายการเลยล่ะค่ะ


....น้องๆ ดีใจกันมากเลยค่ะที่ได้เสื้อผ้าใหม่ๆ แต่ละคนตื่นเต้น ตื่นตาตื่นใจ ที่ได้เห็น
และได้รับของจากพี่ๆ แต่ละคนยิ้มแย้ม ยกมือไหว้ขอบคุณ อย่างมีมารยาท


....ส่วนของบริจาคให้ชาวบ้านนั้นก็มีไม่น้อยอีกเช่นกัน แจกกันเป็นครัวเรือนไป ก็มี
ของใช้อุปโภค-บริโภค ที่จำเป็น เสื้อผ้า อาหารแห้ง ฯลฯ ซึ่งก็มีชาวบ้านมารอรับ
ของบริจาคนับร้อยคนทีเดียว


....หลังจากฝ่ายบริจาคทำงานบริจาคเสร็จ งานก่อสร้างของเราก็เสร็จสิ้นไล่เลี่ยกัน
พื้นเรียบร้อย หลังคาเรียบร้อย เหลือก็แต่เก็บรายละเอียดเท่านั้นเอง


....และแน่นอนว่าหลังจากทำงานเสร็จ เราก็ต้องตกแต่งกันซะหน่อย จริงมั้ยคะ ^^เราก็
เขียนป้ายโรงอาหารใหม่ให้น้องๆ โดยฝีมือของพี่ๆ ช่วยกันวาด ช่วยกันเขียน ช่วยกัน
ระบาย สุดฝือมือ


....หลังจากเสร็จกิจกรรม มอบสิ่งของและติดป้ายเรียบร้อยแล้ว เราต่างก็แยกย้ายกัน
เพื่อเตรียมกิจกรรมรอบกองไฟตอนเย็น ...... ทั้งเรา ทั้งชาวบ้านก็ตื่นเต้น เพราะต่างก็
มีการแสดงมาแลกกัน


....ค่ำคืนแห่งความอบอุ่นคืนสุดท้ายของเรา มีชาวบ้าน มีน้องๆซอแขระกลา และพี่ๆ
ครูอาสา มารวมตัวกันรอบกองไฟ เพื่อแลกเปลี่ยนการแสดง และมองของรางวัลอีก
เช่นเคย น้องๆมีระบำชาวเขา ชุด"เกี้ยวสาวซอแขระกลา" มาให้พี่ๆดู น้องใส่ชุดประจำ
เผ่ากระเหรี่ยง เต้นรำน่ารักๆ พร้อมกับร้องเพลงให้พวกเราฟัง ถึงแม้จะไม่มีแสงสี มี
แสงไฟอลังการ แต่ก็สวยงาม และน่าประทับใจจริงๆค่ะ




วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552

Last Time

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด


....เช้าวันที่ 13 ธ.ค. 52 เราเตรียมตัวออกเดินทางกลับพิษณุโลกแต่เช้าตรู่
น้องๆ แต่งตัวชุดที่ได้รับแจกไปเมื่อวันก่อน มาส่งเรา ดูแล้วน่ารักสบายตา
ภาพสุดท้ายที่เราทุกคน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำตาจะไหล ก็คือ
ภาพที่น้องๆ ยืนเรียงแถวกัน ตรงถนนบริเวณทางออก เพื่อรอส่งพวกเรา
ขณะที่รถของพวกเราขับผ่าน น้องๆต่างโบกมืออำลา และสีหน้าของน้องๆ
ที่แสดงออกมาทำให้พวกเรา เห็นแล้วไม่อยากกลับเลย น้องๆบอกให้พวก
เรากลับไปเยี่ยมน้องๆอีก ซึ่งแน่นอนว่า ถ้าเรามีโอกาส เราต้องไปแน่นอน

................

ขอขอบพระคุณ

ผู้สนับสนุนโครงการทุกท่าน
คณาจารย์ทุกคนที่ไปอบรมดูแลพวกเรา
และขอบคุณสมาชิกชมรมทุกคนที่ลงแรงลงใจทำงานร่วมกัน
By: ยีนส์
**********************
คลิดดูรูปภาพเพิ่มเติมได้ ที่นี่ ค่ะ